ขอต่อจากครั้งที่แล้วนะคะ
ในส่วนของสาเหตุอื่นๆนอกเหนือจาก4ข้อที่กล่าวมา
อาหาร จากการศึกษาทางสถิติในผู้ป่าวย100ราย ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับความรุนแรงของสิว อย่างเช่น ช็อคโกแลต,อาหารที่มีไขมันมาก
Premenstrual flare ก็คือผู้หญิง70% มักมีสิวก่อนเป็นประจำเดือน2-7วัน
เหงื่อ ประมาณ15%ของผู้ป่วย พบว่าสิวจะเห่อ ถ้ามีเหงื่อ
แสงแดด ก็มีผลต่อComedogenic ของsebum
การรักษาด้วยPUVA ทำให้เกิดสิวได้
ความเครียด ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่าทำให้เกิดสิวอย่างไร แต่สิวมักทำให้เกิดความเครียด เนื่องจากทำให้ใบหน้าดูไม่ดี ยิ่งทำให้ผู้ป่วยยิ่งไปบีบหรือแกะสิว ซึ่งส่งผลทำให้สิวดูเป็นมากขึ้น
อาชีพ บางอาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ก็จะมีแนวโน้ม ที่จะเกิดสิว(acneiform oil folliculitis)
สิวมักเริ่มเป็นเมื่อเข้าสู้วัยรุ่น ตำแหน่งที่เป็นมักมีต่อมไขมันขนาดใหญ่และมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้แก่ ใบหน้า 99% หลัง60% หน้าอก15% ผู้ป่วยมักมีภาวะหน้ามัน(seborrhea)ร่วมด้วย
รอยโรคของสิวที่พบก็จะแบ่งเป็น2แบบคือ
1.แบบที่ไม่มีการอักเสบร่วมด้วย อันนี่จะเกิดจากpilosebaceous duct โปร่งออก เนื่องจากมี keratin(ขี้ไคล) อัดกันแน่น
แล้วจะแบ่งเป็นwhite head คือ ตุ่ม1-3mm.สีเดียวกับผิว รูเปิดที่หัวสิวเล็ก และ black head รูเปิดจะกว้างขึ้น รูขุมขนขยาย มีเมลานินร่วมด้วยจึงเห็นเป็นสีดำ
2.แบบที่มีการอักเสบร่วมด้วย จะมี4ชนิดคือ
Papules ตุ่มแดง เล็กกว่า 5 mm.
Pustules ตุ่มสิวที่มีหนอง เล็กกว่า 5 mm.
Nodules สิวอักเสบชนิดลึก ใหญ่กว่า1cm.
Cyst สิวที่เป็นถุงนิ่มภายในมีหนอง
**โดย Nodule กับ Cyst อาจมีทางเชื่อมกันเกิดเป็น sinus tract จะยิ่งมีการอักเสบมากและลงลึก จึงมักเป็นแผลเป็น ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเนื่อเยื่อcollagen เพิ่มขึ้น หรืออาจเกิดจากเสียเนื่อเยื่อcollagen ทำให้เกิดแผลบุ๋มลงไป
ขอโทษนะคะที่มาช้า เมื่อเรารู้ถึงสาเหตุและประเภทของรอยโรคที่เรียกว่าสิวนี้ เราก็จะมารู้การรักษาอย่างถูกต้องได้ต่อไปนะคะ
ติดตามกันนะคะ